โรคที่พบในปลาหางนกยูง



โรคที่เกิดจากแบคทีเรีย
เกิดจากพวกแบคทีเรียสกุล Aeromonas hydrophila Pseudomonas fluorescens รุนแรงมากสามารถทำให้ปลาตายภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง  Flexibacter columnaris เหงือกและครีบเปื่อย Streptocaccal disease พบอยู่ทั่วไปกับเมือกของปลาหางนกยูง จะแสดงอาหารเมื่อปลามีบาดแผล เป็นโรค และสภาพแวดล้อมไม่ดีโรคที่เกิดจากแบคทีเรียอาการที่พบคือ ครีบและหางกร่อน ท้องบวมน้ำ เกล็ดพอง รักษาโดยใช้ยาปฎิชีวนะ เช่น ไนโตรฟูราโซน 1 - 2 กรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่ปลานาน 2 - 3 วัน , ออกซิเตตร้าไซคลิน หรือ เตตร้าซัยคลิน ผสมลงในน้ำในภาชนะที่เลี้ยงในอัตรา 10 - 20 มิลลิกรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร หรือ จะใช้เกลือแกง 0.5 - 1% ก็ได้
โรคจุดขาว (White spot)
เกิดจากสัตว์เซลล์เดียว ชื่อ Ichthyophthirus multifilis หรือ ชื่อย่อว่า Ich (อิ๊ค) เข้าเกาะตัวปลาและฝังตัวที่ผนังชั้นนอกของปลา สร้างความระคายเคือง ปลาจะสร้างเซลล์ผิวหนังหุ้มอิ๊ค ทำให้เป็นเป็นจุดสีขาว ยังไม่มีวิธีกำจัดอิ๊คที่ฝังอยู่ใต้ผิวหนัง แต่วิธีการที่ได้ผล คือ การทำลายตัวอ่อนในน้ำ สารเคมีที่ใช้ได้ผลดี คือ ฟอร์มาลิน 25 - 30 มล. ต่อน้ำ 1,000 ลิตร ผสมกับมาลาไค้ทกรีน 0.1 กรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่ทิ้งไว้ตลอด และควรจะแช่ซ้ำอีก 3 - 4 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 7 วัน จะได้ผลดีมาก โดยเฉพาะเมื่อน้ำมีอุณหภูมิประมาณ 28 - 30 องศาเซลเซียส

        โรคที่เกิดจากปลิงใส เกิดจากปรสิตตัวแบน 2 ชนิด คือ Gyrodactylus และ Dactylogyrus
มักพบตามบริเวณเหงือก และผิวหนัง การรักษาใช้ฟอร์มาลินเข้มข้น 40 มล. ต่อน้ำ 1,000 ลิตร หรือ ดิพเทอร์เร็กซ์เข้มข้น 0.25 - 0.5 กรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่ทิ้งไว้ตลอดไป
โรคที่เกิดจากหนอนสมอ (Lerneae sp.)
หนอนสมอมีลำตัวเป็นรูปทรงกระบอก ส่วนหัวคล้ายสมอทำหน้าที่ยึดเกาะกับตัวปลา การรักษาใช้ดิพเทอร์เร็กซ์เข้มข้น 0.25 - 0.50 กรัม ต่อน้ำ 1,000 ลิตร แช่ทิ้งไว้ตลอด แล้วแช่ซ้ำ 3 - 4 ครั้ง แต่ละครั้งห่างกัน 7 วันนอกจากนั้นโรคเกิดจากปรสิต ก็มี Oodinium หรือ Gold dust disease โรค Hexamita มี อาการถ่ายออกมามีสีขาวเกิดจากสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม โรคที่เกิดจากเชื้อ Tetrahymena pyriformis อาการตาโปน
โรคเกิดจากเชื้อรา
โรคที่เกิดจากเชื้อราได้แก่ โรคเกิดจาก Saprolegnia species เชื้อตัวนี้โดยปกติมีอยู่มากมายในน้ำจืด อาการเป็นปุยขาวที่ผิวหนัง ครีบ และ ปาก อีกโรคเกิดจากเชื้อ Icthyophonus hoferi ที่พบบ่อยเกิดจากให้กินอาหารที่มีชีวิต เชื้อตัวนี้เข้าไปทำลายอวัยวะภายในได้แก่ ลำไส้ รังไข่และตับ ควรจะกำจัดปลาที่เป็นโรคนี้ทันที และควรทำความสะอาดบ่อ


























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น